คังเซน-เคนโก’จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพส่งต่อความสำเร็จ …ด้านนายอิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้เผยถึงความเคลื่อนไหวของธุรกิจในช่วงนี้ว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้มีการจับมือกับทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา ในการเพิ่มช่องทางสนับสนุนให้กับทางสมาชิกได้ทำงานได้ง่ายขึ้นนั่นคือ กรุงศรี ควิกเพย์ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล่าสุด ในการรับชำระเงินได้ทั้งจากบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของทุกธนาคาร ซึ่งทางบริษัทฯ เชื่อว่าจะสามารถส่งผลดีต่อทั้งสมาชิกและบริษัทอย่างแน่นอน
“กรุงศรี ควิกเพย์ ทางบริษัทฯ ได้เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าทางสมาชิกค่อนข้างตื่นเต้นอย่างมาก และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีความคล่องตัวและสะดวกกว่าที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้บริษัทฯ เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถเพิ่มสัดส่วนของยอดขายได้อย่างมากทีเดียว”
นอกจากนี้ บอสใหญ่ค่าย “คังเซน-เคนโก” ยังได้กล่าวถึงแนวทางของธุรกิจในช่วงนี้ต่ออีกว่า วันนี้บริษัทฯ ได้เริ่มหันมาเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงานมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมองว่ากลุ่มดังกล่าวค่อนข้างมีกำลังซื้อพอสมควร ในขณะเดียวกัน อีกกลุ่มที่กำลังให้ความสนใจธุรกิจเครือข่ายนั่นก็คือ กลุ่มนักศึกษา ที่เริ่มหันมาเปิดใจกับธุรกิจนี้มากขึ้น
“วันนี้กลยุทธ์ของเรา คือ ต้องการที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เห็นได้จาก ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้เตรียมที่จะมีการปรับแพ็คเกจสินค้าให้เล็กลง และมีราคาที่ประหยัดขึ้น เพื่อต้องการให้เกิดการซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งสินค้าที่มีการลดไซต์นั้น จะเป็นสินค้าเกือบทุกกลุ่ม โดยวัตถุประสงค์ คือ ต้องการให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจในช่วงนี้ ที่กำลังซื้อค่อนข้างลดลง ซึ่งทางบริษัทฯ เชื่อว่าจากกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ น่าที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าบริโภคได้มากขึ้นเช่นกัน”
นายอิทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งแผนงานของบริษัทฯ ที่จะสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจนับจากนี้ คือ การดึงร้านเสริมสวยทั่วประเทศเข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นในลักษณะของ Business to Business โดยจะมีทั้งร้านเสริมสวยและธุรกิจขายตรง ที่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการมาแล้ว 2-3 เดือน ผลตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว
“ร้านเสริมสวยที่จะเอาสินค้าของบริษัทฯ เข้าไปนั้น จะต้องเป็นสมาชิกของบริษัทฯ ก่อน ซึ่งส่วนใหญ่สินค้าที่นำเข้าไปในกลุ่มนี้จะเกี่ยวกับเรื่องของความสวยความงามเป็นหลัก โดยตรงนี้จะมีการประเมินถึงผลการตอบรับด้วย”
นอกจากนี้ ทางด้านนายอิทธิศักดิ์ ยังได้เผยถึงการรีโนเวทสาขาทั้งหมด 70 สาขาในขณะนี้ว่า ขณะนี้ทางบริษัทฯ กำลังเตรียมที่จะทยอยรีโนเวทสาขาใหม่ที่มีอยู่ 30 สาขาก่อนในปีนี้ โดยจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบโลโก้ ออกแบบตกแต่งภายในทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้ใช้งบไปแล้วกว่า 30-40 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรีโนเวทสาขาทั้งหมด 70 สาขาได้ภายใน 2 ปีข้างหน้านี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
“การรีโนเวทในแต่ละสาขาจะใช้งบประมาณ 1 ล้านบาท โดยหากรวมทั้งหมด 70 สาขาแล้วคาดว่าจะใช้งบรวมทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านบาทด้วยกัน”
นายอิทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งนโยบายที่ตนเองพูดเสมอ คือ อยากที่จะเพิ่มจุดแสดงสินค้าให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ ทางบริษัทฯ กำลังดูในส่วนของ Express Shop ร้านเล็ก ๆ ประจำตามร้านโลตัส บิ๊กซี ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งปัจจุบันที่มีอยู่คือ ที่โลตัสสาขาศรีนครินทร์ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เซ็นทรัลรามอินทรา เอเวอร์นิว ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต และปลายปีนี้ ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะเข้าไปลงทุนที่ประเทศอินเดีย ที่เมืองมุมไบอีกด้วย
“ปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ ต้องมีการลงทุนเพิ่มส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ในประเทศไทยยอดขายค่อนข้างนิ่งมาประมาณ 2-3 ปี บวกกับการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้บริษัทฯ จึงต้องหันมามองตัวเราเอง เมื่อรู้แล้วว่าเรามีข้อบกพร่องอะไร วันนี้ถ้าเราไม่ปรับตัวเราเองให้เป็นทางเลือกของกลุ่มคนทำธุรกิจหรือกลุ่มผู้บริโภคเขาก็ไม่เลือกเรา ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นการต่อยอดไปอีก 5-10 ปีในอนาคตนั่นเอง”
…นับได้ว่าการออกมาสร้างความเคลื่อนไหวของทั้ง 3 ค่าย อย่าง “คังเซน-เคนโก-ยูนิซิตี้-นู สกิน” ในครั้งนี้ น่าที่จะสร้างแรงเหวี่ยงของธุรกิจได้ไม่มากก็น้อยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก นสพ. ตลาดวิเคราะห์